กระดานแสดงความคิดเห็น
Home
Contents
Articles
Quiz
Members
Sponsor
Print-friendly
MENU
ปรับปรุง : 2566-10-15 (กระดานแสดงความคิดเห็น)
เว็บเพจหน้านี้สำหรับผู้ดูแลเท่านั้น
รหัส secure
=>
นำตัวอักษร สีขาวบนพื้นแดง มาป้อนในช่องนี้
edit_topic_password =>
<center><table width=90% border=0 bgcolor=#000080><tr><td><font color=white size=4>ไอทีในชีวิตประจำวัน #469 นิ้วชี้รุ้งนิ้วจะกุดต้องจิ้มรูตูด</td></tr></table><table width=90% bordercolor=#000080 border=1><tr><td bgcolor=white><br>ไอทีในชีวิตประจำวัน #469 นิ้วชี้รุ้งนิ้วจะกุดต้องจิ้มรูตูด ()<br /> คุณมาโนช พุฒตาล เล่าเรื่องการใช้นิ้วชี้รุ้งแล้วนิ้วจะกุด ไว้ในนิตยสารคู่สร้างคู่สมฉบับเดือนกันยายน 2557 ว่าในอดีตผู้ใหญ่มักสอนเด็กให้คิดเป็น ยกตัวอย่างที่ครูเชิดพาเด็กมายืนนอกบ้านแล้วบอกว่าเอานิ้วชี้รุ้งแล้วนิ้วจะกุด เมื่อชี้แล้วก็เอานิ้วให้ดูว่ากุดไปแล้ว แก้ไขโดยเอานิ้วไปแยงรูตูดตนเอง นิ้วจะกลับมาเหมือนเดิม เป็นปริศนาที่ชวนให้เด็กได้คิดเชิงวิเคราะห์ถึงความสมเหตุสมผล เพราะคำตอบไม่ใช่ประเด็นหลักของการสื่อสาร ที่สำคัญคือกระบวนการพัฒนาการคิดที่ติดไปกับตัวเด็ก แล้วฝึกให้ซักถาม โต้แย้งที่นำไปสู่การคิดอย่างเป็นระบบ ซึ่งการสอนในปัจจุบันไม่มีเวลาที่จะสอนในแนวอุปมาอุปมัยมากเหมือนในอดีต เพราะมีเรื่องให้ท่อง ให้ค้นคว้า ให้จดจำ และนำไปทำรายงานมากมายเหลือเกิน<br /> อีกมุมหนึ่งของการศึกษาในปัจจุบัน คุณครูมักมอบงานค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต แล้วให้ไปทำรายงานที่บ้าน ดูว่าเป็นการเรียนที่ทันสมัยและรู้จักการใช้เทคโนโลยี หัวข้อก็มักยากเกินวัย เด็กจึงอาศัย google.com เมื่อค้นข้อมูลพบก็จะคัดลอกไปวางในไมโครซอฟท์เวิร์ด แล้วจัดหน้าให้เรียบร้อย นำไปเข้าเล่มแล้วรายงานให้คุณครู ซึ่งครูส่วนใหญ่ก็คงไม่ได้อ่าน เพราะเป็นงานที่คัดลอกมาจากอินเทอร์เน็ตกันทุกคน ก็คงให้คะแนนในคุณภาพของเนื้อหาไม่ได้ เด็กบ้านไหนที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตก็จะไม่มีงานส่ง ทำให้คะแนนลดลงในวิชาเหล่านั้น ในระหว่างทำรายงานก็มักใช้เฟสบุ๊ค หรือไลน์คุยกันเรื่องการทำรายงาน เกิดค่านิยมงานกลุ่มชอบทำเดี่ยว แต่งานเดี่ยวมักทำกันเป็นกลุ่ม เพราะครูได้วางแผนมอบหมายงานว่า หากงานใดที่ต้องการให้มีส่วนร่วมของนักเรียนก็จะมอบงานกลุ่ม แต่เด็กมักไปแบ่งงานกันทำ แล้วอาจยกให้เป็นภาระของคนใดคนหนึ่ง ทำให้เด็กที่เหลือขาดความเข้าใจในเนื้อหาองค์รวม ส่วนงานเดี่ยวที่หวังให้ทำรายงานด้วยตนเองก็มักจะสื่อสารกันและแบ่งปันข้อมูลจนเด็กขาดความเข้าใจตามที่คุณครูคาดหวัง<br /> การศึกษาที่ส่งเสริมให้เด็กไทยคิดเป็น เป็นสิ่งท้าทายของนักการศึกษา แต่ก็มีผู้รู้บางท่านที่เห็นต่าง โดยมองว่าผลสอบที่ได้คะแนนสูงมีความสำคัญ เมื่อให้น้ำหนักกับการสอบก็ต้องจัดติว และฝึกทำข้อสอบปรนัยให้ได้คะแนนสูง เมื่อเวลาของมนุษย์มีจำกัด ทำให้เวลาที่เหลือให้กับกิจกรรมฝึกคิดเป็นถูกลดทอนลง เหลือเพียงเวลาที่จะพัฒนาให้เด็กจำได้และกาเป็น เพื่อให้ได้คะแนนสอบสูง โรงเรียนก็จะผ่านการประเมินของหน่วยงานที่เข้าไปประเมินคุณภาพ มีนักเรียนเข้าเรียนเยอะขึ้น และหนีการตกชั้นหรือถูกยุบตามที่เป็นข่าว <br /> https://th-th.facebook.com/btkdmagazine/photos/a.218375238305641.1073741828.218308584978973/456524257824070<br /> <br><br></td></tr><tr><td align=right bgcolor=black><font color=white><small><b>จากคุณ :</b> บุรินทร์ <a href=mailto:></a><a title='118.172.104.226'>.</a><br> 02:53am (11/10/14)</font></td></tr></table></center>